ReadyPlanet.com
dot
บริการสอนพิเศษที่บ้าน
dot
bulletผลงานที่ผ่านมา
bulletอัตราค่าเรียน
bulletหลักสูตร
bulletสอนพิเศษตามบ้าน
bulletกวดวิชาที่สถาบัน
bulletวิธีการชำระเงิน
bulletตัวอย่างทีมติวเตอร์
bulletสมัครเรียน
bulletสมัครติวเตอร์
bulletติดต่อเรา
dot
กิจกรรมเสริมสร้างความรู้
dot
bulletiQ Plus School Campus
bulletiQ Plus Reading Contest
bulletiQ plus ติวเข้มพนักงาน
bulletiQ Plus Donation
bulletEnglish Version
bulletข้อมูลบริษัท และ ลูกค้าของเรา
bulletขั้นตอนการใช้บริการ
bulletร่วมงานกับเรา
bulletติดต่อเรา
dot
บทความน่ารู้
dot
bulletเรียนอย่างไรให้เก่ง
bulletวิทยาศาสตร์น่ารู้
bulletGAT PAT คืออะไร
bulletเทคนิคการอ่านหนังสือ
bulletเคล็ดลับเพิ่มความจำ
bulletวิธีส่งเสริมลูกให้เรียนเก่ง
bulletธรรมะของวัยเรียน
dot
LINK เว็ปเพื่อการศึกษา
dot
bulletสสวท.
bulletสอบแข่งขันเพชรยอดมงกุฏ
bulletวิชาการดอทคอม
bulletแข่งขันคณิตศาสตร์
bulletมหาวิทยาลัยรัฐบาล
bulletมหาวิทยาลัยเอกชน
bulletวิทยาลัยนานาชาติ
bulletโรงเรียนรัฐบาล
bulletโรงเรียนเอกชน
bulletโรงเรียนนานาชาติ
bulletหน้า HOME


โทร. 085-999-7383
แปลเอกสาร แปลภาษา บริการแปลเอกสาร รับแปลเอกสาร แปลงาน รับแปลภาษาอังกฤษ แปลจีน แปลญี่ปุ่น แปลฝรั่งเศส แปลเยอรมัน แปลอังกฤษ  รับแปลงาน แปลอังกฤษเป็นไทย แปลไทยเป็นอังกฤษ รับรองเอกสาร รับแปลเอกสารขอวีซ่า รับรองผู้เชี่ยวชาญศาลยุติธรรม แปลเอกสารราคาถูก แปล


วิธีส่งเสริมลูกให้เรียนเก่ง

 

เคล็ดไม่ลับ วิธีการส่งเสริมลูกให้เรียนเก่ง

ปภาดา ชิโนภาษ

สำนักส่งเสริมสถาบันครอบครัว

 
ผู้เขียนเข้าใจว่าคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้ คงจะทราบข้อมูลว่ากรรมพันธุ์ที่ถ่ายทอดจากคุณพ่อคุณแม่เป็นปัจจัยครึ่งหนึ่งที่ทำให้ลูกฉลาด ส่วนปัจจัยที่เหลือจะเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมจากการอบรมเลี้ยงดู รวมทั้งสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ดังนั้น หากจะกล่าวว่าคุณพ่อคุณแม่ คือ ปัจจัยสำคัญที่สุด ในการส่งเสริมให้ลูกฉลาดคงจะมิใช่การกล่าวที่เกินจริง
คุณพ่อคุณแม่ควรต้องทราบและตระหนักถึงความสำคัญว่า “เด็กสามารถเรียนรู้และมีพัฒนาการดีที่สุด ในช่วงอายุ 3 ปีแรก” สำหรับในครอบครัวที่มีกรรมพันธุ์ที่ดี ก็ถือว่าเด็กมีต้นทุนชีวิตที่ดี การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดจนพัฒนาการต่างๆ ให้กับลูกก็จะไม่ยุ่งยากมากนัก แต่สำหรับในบางครอบครัว หากรู้สึกว่าไม่มีปัจจัยเรื่องของกรรมพันธุ์ช่วยส่งเสริม ก็ขอให้ทราบและมั่นใจว่าสิ่งแวดล้อมจากการอบรมเลี้ยงดู และสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างและกำหนดได้คะ
 
คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการส่งเสริมลูกให้เรียนเก่งลองใช้เคล็ดไม่ลับเหล่านี้ดูค่ะ
 
1. คุยกับลูกบ่อยๆ  มีผลการศึกษาเป็นที่ยอมรับว่าเด็กทารกสามารถจำและตอบสนองต่อเสียงของแม่ได้เกือบนาทีแรกหลังคลอด และยังมีข้อสนับสนุนที่บอกว่าทารกได้ยินเสียงของแม่ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ ทารกที่เกิดสัปดาห์ต่อมาจะสามารถสบตากับผู้ที่กำลังพูดกับเขาได้ ดังนั้น เมื่อคุณพ่อคุณแม่อุ้มลูก ให้มองสบตาลูกและให้หน้าของคุณห่างกับเขาประมาณ 30 เซนติเมตร แล้วพูดกับเขาช้าๆ ชัดๆ และรอการตอบสนองจากเขาค่ะ
2. อ่านหนังสือให้ลูกฟัง เด็กเล็กยังอ่านเองไม่ได้ คุณจึงควรอ่านหนังสือให้เขาฟังบ่อยๆ เริ่มจากการเลือกหนังสือที่เหมาะกับวัย เช่น นิทานสำหรับเด็ก เพื่อช่วยให้ลูกได้ยินลักษณะของคำพูด และฝึกให้เขาออกเสียงพูด ลูกจะได้คุ้นเคยและเรียนรู้ที่จะเลียนแบบ ซึ่งจะเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับลูกต่อไป
3. ฟังลูกอ่าน เมื่อลูกรู้จักอ่านหนังสือ คุณควรส่งเสริมเขา ด้วยการช่วยลูกเลือกหนังสือเพื่อนำมาอ่านด้วยกัน ให้เขาอ่านให้ฟัง ฟังความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เขาอ่าน การที่คุณฟังเขาอ่าน และฟังความคิดเห็นของเขาจะทำให้เขารู้สึกมีคุณค่า ที่สำคัญการอ่านหนังสือกับลูกเป็นการปลูกฝังความคิดว่า คุณเห็นคุณค่าของการเรียนรู้และทำให้เขาทราบว่ากิจกรรมที่ทำอยู่เป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ และเป็นการสร้างความอบอุ่นที่ดีอีกด้วย
4. ชื่นชมและให้รางวัลกับความสำเร็จของลูก อาจเป็นการกล่าวชม กอด หอมแก้ม ทำของโปรดให้เขาทาน หรือ พาไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ เพื่อบอกให้ลูกทราบว่าความสำเร็จของเขาเป็นเรื่องสำคัญและน่ายินดี บางครั้งการใช้โอกาสของความสำเร็จของลูกในการจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ในครอบครัว ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการใช้เวลาร่วมกันอย่างมีคุณภาพได้อีกวิธีหนึ่ง
5. ส่งเสริมการเล่นของลูก   คุณพ่อคุณแม่ควรเข้าใจและยอมรับว่า การเล่นคือธรรมชาติของเด็ก การเล่นจะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ ช่วยให้เขาสนุกสนาน ของที่มีอยู่รอบตัวก็เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ได้เป็นอย่างดี ของเล่นของลูกที่ดีไม่จำเป็นต้องแพง เพียงแต่เลือกให้เหมาะสมกับวัย ยุคนี้ของเล่นที่มีคุณภาพส่วนใหญ่จะระบุอายุของเด็กไว้ให้ด้วย การจัดตารางการทำกิจกรรมต่างๆ ให้เหมาะสมก็เป็นเรื่องจำเป็น ที่สำคัญอย่าปล่อยให้ลูกเล่นมากหรือน้อยเกินไปคะ
6. คุยเรื่องชีวิตประจำวันกับลูก เช่น อาจใช้คำถามลักษณะว่า “วันนี้เราทำสลัดผักทานกัน ไหนคนเก่งลองบอกแม่สิ ว่ามีผักอะไรบ้าง” “วันอาทิตย์หน้าคุณพ่อจะพาเราไปเที่ยวสวนสัตว์ตามสัญญา ดีใจไหมลูก แล้วลูกชอบสัตว์อะไรมากที่สุด ทำไมถึงชอบคะ การพูดคุยกับลูกจะช่วยให้เขาคิดได้ ให้เขาได้รู้จักการโต้ตอบ ทำให้เขาจะรู้สึกว่าเป็นคนสำคัญ หากจะมีบางครั้งเขาอาจพูดผิด ถ้าไม่เสียหายก็ปล่อยไปบ้าง แต่หากส่งผลต่อการเรียนรู้ของเขา ต้องค่อยๆ บอกว่าสิ่งใดถูก โดยไม่ทำให้เขารู้สึกว่าผิด และอย่าดุลูก ในขณะที่คุณคุยกับเขาคะ
7. นับเลขเล่นกับลูก เริ่มจากสิ่งต่างๆ รอบตัวเช่นถามว่าครอบครัวเรามีกี่คน ตุ๊กตาตัวโปรดของลูกมีกี่ตัว วันนี้ลูกใช้เงินไปเท่าไหร่และเก็บเงินใส่กระปุกได้กี่บาท เป็นต้น
8. ให้เด็กบอกสีของสิ่งต่างๆ เช่น ดอกไม้ เสื้อผ้า หรือของใช้ต่างๆ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้และสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว
9. สร้างบรรยากาศให้ลูกสบายใจกับการไปโรงเรียน ทำให้เขามีความสุขอาจให้รางวัลลูกเป็นอุปกรณ์ทางการศึกษา เช่น กล่องดินสอใหม่ กล่องดินสอสี เสื้อผ้าชุดใหม่ เมื่อเขาทำความดี หรือคุณอาจเขียนคำว่า “แม่รักลูก” หรือ “พ่อรักลูก” สอดไว้ในหนังสือ เป็นต้น
10. ควรมีมุมหนังสือและที่นั่งอ่านหนังสือสบายๆ ในบ้าน หากมีพื้นที่เพียงพอ เพื่อที่ทุกคนในครอบครัว จะได้ใช้เป็นที่อ่านหนังสือ ทำการบ้าน มุมทำงาน และมุมนั่งพักผ่อนได้สบายๆ ของทุกคนได้พร้อมกัน
สิ่งสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้าม คือ ควรฝึกให้ลูกตื่นนอนเป็นเวลาตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อที่จะได้ไม่ต้องบังคับเคี่ยวเข็ญให้ลูกต้องตื่นเช้าไปโรงเรียน
เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เพียงแค่นี้ คิดว่าคุณพ่อคุณแม่คงจะทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ หากเทียบกับผลตอบแทน ที่มีคุณค่าอย่างมหาศาลที่คุณและลูกจะได้รับ